วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log 8 ในห้องเรียน

Learning log 8
ในห้องเรียน
Noun Clause คือ อนุประโยค (Subordinate clause) ประเภทหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นคำนาม (noun) ในประโยค ซึ่งในการสนทนาพูดคุย ติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันเราอาจจะใช้ Noun clause แต่เรามักไม่รู้ตัวว่าเรากำลังใช้ Noun clause อยู่ ซี่ง Noun clause นี้มักจะปรากฏทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียน ตัวอย่างเช่นBig John thinks he should practice meditation twice a week.บิ๊ก จอห์นคิดว่าเขาควรจะฝึกสมาธิอาทิตย์ละครั้ง เป็นต้น

สำหรับหน้าที่และตำแหน่งของ noun clause 1.หน้าที่เป็นประธานอยู่หน้าประโยค (Subject) โดยปกติแล้ว คำนามหรืออนุประโยคที่ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยคมักจะปรากฏอยู่หน้ากริยาหรือหน้าประโยค ตัวอย่างเช่น What Big John ought to do now is concentrating on working. สิ่งที่บิ๊ก จอห์นควรจะทำตอนนี้ก็คือตั้งใจทำงาน  จากประโยคข้างต้น what Big John ought to do noun เป็น noun clause อยู่หน้าประโยค ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค What he said drives her angry. สิ่งที่เขาพูดทำให้หล่อนโกรธ จากประโยคข้างต้น what he said เป็น noun clause อยู่หน้าประโยค ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค 2.ทำหน้าเป็นกรรมของกริยา (Subject of verb) ตำแหน่งอยู่หลังกริยา ตัวอย่างเช่น I suggest you that you should go to a movie with me tonight. ผมแนะนำว่าคุณควรจะไปดูหนังกับผมคืนนี้ จากประโยคข้างต้น that we should go to a movie tonight อยู่หลังกริยา suggest เป็นกรรมตรง (Direct object) ของ suggest ตามหลังกรรมรอง (Indirect object)  I don’t understand what you all are talking about. ผมไม่เข้าว่าพวกคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่ จากประโยคประโยค what you all are talking about เป็นกรรม (object) ของ understand 3.มีตำแหน่งอยู่หลังบุรพบท ทำหน้าที่เป็นกรรมของบุรพบท (Object of preposition) ตัวอย่างเช่น  Big John knows all along about what is best for him.
 บิ๊ก จอห์นรู้มาโดยตลอดเกี่ยวกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาคืออะไร จากประโยคข้างต้น what he want is best for him เป็นคำนาม มีตำแหน่งอยู่หลังบุรพบท (Preposition) about ทำหน้าที่เป็นกรรมของ about 4.มีตำแหน่งอยู่หลัง V.to be ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายประธาน (Subject complement)ตัวอย่างเช่นShe is who he wants the most in his life. เธอคือสิ่งที่เขาต้องการที่สุดในชีวิต จากประโยคข้างต้น who he wants the most in his life มีตำแหน่งอยู่หลังกริยาช่วย (V.to be) is ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายหรือเป็นส่วนสมบูรณ์ของประธาน She เพื่อบ่งชี้หรือขยายความว่า She คือใคร
     สำหรับ Noun clause ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้  1.Noun Clause ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า "that" มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1.1. ใช้ตามหลังกริยา (Verb) บางตัวที่แสดงความรู้สึก ความคิด หรือ ความคิดเห็น เช่น think, feel, remember, know, suggest, believe, forget, realize, think, doubt, hope, recognize, understand, agree ตัวอย่างเช่น We think that we’ve got to go now. พวกเราคิดว่าพวกเราจะต้องไปแล้วล่ะตอนนี้ Big John knows all along that his mum loves him so much. บิ๊ก จอห์นรู้มาโดยตลอดว่าแม่รักเขามากๆ 1.2. ถ้าเป็นภาษาพูด เรามักจะละคำว่า that ซึ่งเป็น relative pronoun หรือคำขึ้นที่ขึ้นต้นอนุประโยค(clause) เช่น He thinks that he should give up talking now. (Formal, written language) He thinks he should give up talking now. (Informal, spoken language) เขาคิดว่าเขาควรจะหยุดพูดเสียทีตอนนี้ 1.3. ส่วนใหญ่กริยา (verb) ที่ปรากฏอยู่ใน main clause มักจะเป็น Present Simple Tense ธรรมดาส่วนกริยา (Verb) ใน noun clause จะเป็น tense อะไรก็ได้ เช่น I think Big John is writing his column now. ผมคิดว่าบิ๊ก จอห์นกำลังเขียนคอลัมน์ของเขาอยู่ตอนนี้I think Big John will write his column soon. 1.4. ในการสนทนา ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงการพูดคำว่า that บ่อยเกินไป หรือไม่ต้องการพูด noun clause ซ้ำ สามารถตอบโดยใช้คำว่า so หรือ not หลัง main clause ได้ เช่น Dave: Do you think that Sarah will come here tomorrow morning? Big John: I think so.
2.Noun Clause ที่ขึ้นต้นด้วย "Wh-Words" (Question Words)การใช้ Noun Clause ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Words (what, where, when, why,who, how) มีรายละเอียดดังต่อไปนี้2.1. Noun Clauses ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Words มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Indirect wh-questions และแม้ว่า noun clause เหล่านี้จะขึ้นต้นด้วยคำแสดงคำถาม แต่ลำดับคำ (word order) ในอนุประโยคนี้ จะเป็นลำดับคำของประโยคบอกเล่า ไม่ใช่ลำดับคำของประโยคคำถาม เช่นI can’t tell you where he lives now.ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน 2.2. การใช้เครื่องหมายวรรคตอนของประโยคจะเป็นไปตามลักษณะของ main clause กล่าวคือ ถ้า main clause เป็นคำถามจะใช้เครื่องหมาย question mark ปิดประโยค ถ้า main clause เป็นบอกเล่า จะใช้เครื่องหมาย full stop ปิดประโยค เช่น I know why she loves me.ผมรู้ว่าทำไมคุณถึงรักฉัน 2.3. ใช้ Noun Clause ที่ขึ้นต้นด้วย Wh-Words เพื่อแสดงให้คู่สนทนาทราบว่า เราไม่รู้ หรือเราไม่แน่ใจ เช่น I don’t know how much it takes from here to there.
3. การใช้ Noun Clause ที่ขึ้นต้นด้วย If หรือ Whether คือ indirect yes/no questions และใช้เมื่อ main clause แสดงการใช้ความคิด หรือความคิดคำนึงและอีกอย่างหนึ่งคือใช้เมื่อต้องการถามคำถามอย่างสุภาพ เช่น

                Noun Clause เป็นประโยคที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งการนำมาใช้หรือวิธีการใช้ noun clause นั่นไม่ได้มีความซับซ้อนมากนัก เราไม่จำเป็นต้องท่องหรือต้องจำรูปแบบโครงสร้างแต่อย่างใด เพียงแค่เราหมั่นใช้บ่อยๆเป็นประจำ ด้วยการพูดหรือฝึกแต่งประโยค ก็จะทำให้เราใช้ noun clause ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น