Learning
log 3
นอกห้องเรียน
จากการศึกษานอกห้องเรียนครั้งนี้
ดิฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับข่าว การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ถูกช้างทำร้าย
จากเว็ปไซด์ www.bangkokpost.com ซึ่งทำให้ดิฉันได้พัฒนาทักษะ
2 ด้าน คือทักษะการอ่านและทักษะการฟัง
ทักษะเหล่านี้หากเราได้มีการฝึกฝนและนำมาใช้บ่อยๆ
ก็จะช่วยให้เรานั้นได้พัฒนาความรู้และความสามารถทางด้านภาษา
และยังได้บรรลุตามเป้าหมายในการศึกษาภาษาอังกฤษอีกด้วย
เพราะในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษนั้นมีเนื้อหายากพอสมควร เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกฝนทุกๆทักษะเพื่อที่เราจะได้ก่ง
มีความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจในการใช้ภาษา
และยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนในห้องเรียนได้อีกด้วย
จากการที่ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่าน
ทำให้ดิฉันได้คิด วิเคราะห์ และสามารถสรุปเนื้อหาข่าวได้ดังนี้ เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นในปางช้างแห่งหนึ่ง
อ.แม่ว่าง จ.เชียงใหม่
เมื่อช้างเชือกหนึ่งชื่อพลายสมใจที่ให้บริการนักท่องเที่ยว
เกิดอาการตกมันและคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุทำร้ายนายสุรชัย ควาญช้างจนเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุช้างเชือกดังกล่าวได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า โดยที่บนหลังช้างยังมีพ่อแม่ลูกนักท่องเที่ยวชาวจีนติดอยู่ด้วย
เจ้าหน้าที่ปางช้างจึงได้รีบตามไปติดๆ เกรงว่าจะเป็นอันตรายกับนักท่องเที่ยงและประชาชนบริเวณดังกล่าว
และสุดท้ายช้างเชือกนี้ก็มีท่าทีอ่อนล้าและยอมให้นักท่องเที่ยวชาวจีนลงมาจากหลังช้าง
ซึ่งติดอยู่บนนั้นนานถึง 3 ชั่วโมง ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
แต่สภาพจิตใจยังหวาดกลัว
ส่วนศพควาญช้างเคราะห์ร้ายส่งไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลแม่วาง
จากการที่ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่าน
ทำให้ดิฉันได้ฝึกการคิด วิเคราะห์ ประเมินเนื้อหาข่าวนั้นได้จากการแปล
ทำให้ดิฉันได้รู้จักคำศัพท์ใหม่ๆและได้ทบทวนคำศัพท์ที่ใช้อยู่เป็นประจำ
อีกทั้งยังได้รู้ทันข่าวสาร เหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้
ซึ่งทำให้ดิฉันเป็นคนที่ทันต่อโลกในปัจจุบันได้อีกด้วย
จากการที่ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟัง
สิ่งที่ดิฉันได้รับคือ
การฟังเป็นปัจจัยสำคัญในการแสวงหาความรู้ทั้งความรอบรู้ของสังคม ความรู้เพื่อการดำเนินชีวิต
และความรู้ในศาสตร์แขนงต่างๆ รวมทั้งเพื่อการศึกษาหาความรู้ในชั้นเรียน
ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง
และทักษะการฟังจะช่วยให้เราบรรลุถึงเป้าหมายในการฟังได้อีกด้วย
และจากการที่ดิฉันได้ฝึกฟังการอ่านข่าวกับสำเนียงเจ้าของภาษาโดยตรง มันเป็นการฟังที่ยากมากที่จะเข้าใจ
ซึ่งเป็นสำเนียงภาษาอังกฤษที่ดิฉันไม่คุ้นเคย
เพราะการฟังให้เราเข้าใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการนำไปสู่การแปลความหมายของเนื้อข่าว
หากเราฟังไม่เข้าใจ เราก็ไม่สามารถแปลเนื้อความของข่าวนั้นได้
แต่ถึงแม้ว่าดิฉันไม่คุ้นเคยในตอนแรก แต่หลังจากที่ได้ฝึกฟังซ้ำๆหลายๆครั้ง
และเริ่มฟังครั้งละ 5-10 ประโยค ฝึกออกเสียงไปด้วย
ทำให้ดิฉันสามารถจับประเด็นและใจความสำคัญของเนื้อข่าวนั้นได้
อีกทั้งยังได้ฝึกออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้องและชัดเจนเหมือนสำเนียงเจ้าของภาษาอีกด้วย
จากการที่ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านและการฟัง
ทำให้ดิฉันทราบว่าทั้ง 2 ทักษะเป็นเพียงแค่พื้นฐานในการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษ
ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนด้วยตนเองอยู่เป็นประจำถึงจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
และวิธีการเรียนภาษาอังกฤษให้ประสบผลสำเร็จด้วยตัวเองต้องประกอบด้วย การฟัง
การอ่าน การพูด และการเขียน การฟังอาศัยการฝึกทั้ง 2 รูปแบบควบคู่กันไป
ได้แก่การฝึกฟังแบบจับใจความทั้งหมด และการฝึกฟังแบบรายละเอียด
หมั่นอ่านหนังสือเป็นประจำ เพื่อฝึกฝนการสร้างมโนภาพและฝึกความเร็วในการอ่าน
ศึกษาไวยากรณ์และคำศัพท์เพื่อใช้ในการถ่ายทอดกระบวนความคิดออกมาเป็นคำพูด
การจดจำไวยากรณ์ได้แม่นยำจะทำให้เราพูดออกมาได้อย่างเป็นระบบ ฝึกเขียนบ่อยๆ
เพื่อให้เกิดความคล่องแคล้ว และยังเป็นการฝึกคิดอย่างมีเหตุผลและเป็นระบบอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น