Learning
log 3
ในห้องเรียน
Tenses คือ
รูปแบบหรือโครงสร้างของกริยาที่แสดงให้เราทราบว่า
การกระทำหรือเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งเรื่อง tenses นี้เป็นเรื่องสำคัญถ้าเราใช้ tense ไม่ถูก
เราก็ไม่สามารถสื่อภาษากับคนอื่นไม่ได้ เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ
tense เสมอ
ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่มาช่วยเสมอ
แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป tense นี้มาเป็นตัวที่บ่งบอกกาลเวลา ดังนั้นการศึกษาเรื่อง
tense จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น
Tense จะแบ่งออกเป็น
3 tenses ใหญ่ๆคือ Present
tense (ปัจจุบัน) Past tense(อดีต) และ Future
tense (อนาคต) และในแต่ละ Tense สามารถแยกย่อยได้
tense ละ 4 ข้อ คือ 1 simple
tense ธรรมดา 2.continuous tense กำลังกระทำอยู่
3. Perfect tense สมบูรณ์ (ทำเรียบร้อยแล้ว) 4.
Perfect continuous tense สมบูรณ์กำลังกระทำอยู่
Present
Simple tense ปัจจุบันกาลคือ tense ที่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
แต่ไม่ได้ระบุว่าการกระทำนั้นๆสมบูรณ์แล้วหรือยังโดยมีโครงสร้างคือ S+V.1 tense นี้จะใช้กับกริยาช่องที่ 1 เท่านั้น โดยนำกริยาไปเติมลงในโครงสร้างต่อจากประธาน
แต่ถ้าประธานเป็นเอกพจน์กริยาต้องเติม –s หรือ –es แต่ถ้าประธานเป็นพหูพจน์กริยาไม่ต้องเติมอะไร
เช่น Ann works an office. การใช้ present simple
tense 1.ใช้กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเป็นปกติวิสัยหรอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน
2.ใช้กับสิ่งที่เป็นจริงตลอดกาล 3. ใช้กับการวางแผนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
4.ใช้เล่าเรื่องเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น 5. ใช้กับกริยาแสดงความรู้สึก แสดงอารมณ์
Past Perfect tense มีโครงสร้างในการแต่งประโยคคือ
S.+ had+ V.3+… เป็นการบ่งบอกเรื่องที่ทำมาแล้วในอดีตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
เช่น I had already studied Chapter One before I began to study Chapter
Two. แปลความหมายได้ความว่า ฉันเรียนบทที่ 1 เรียบร้อยแล้ว
ก่อนฉันจะเรียนบทที่ 2 ) เป็นการบอกว่าเหตุการณ์ที่ 1
เสร็จเรียบร้อยแล้วในอดีต
เหตุการณ์ใหม่จึงจะปรากฏแต่จะเรียบร้อยทั้ง 2 เหตุการณ์และมีอีกหลักการคือ
ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำอันเดียวก็ได้ในอดีต
แต่ต้องระบุชั่วโมงและวันให้แน่ชัดไว้ในทุกประโยคด้วยทุกประโยคด้วยทุกครั้ง Past
Perfect Continuous tense จะมีหลักการใช้ทุกประการเหมือนกันเพียงแต่ย้ำถึงความต่อเนื่องของการกระทำที่
1 ว่าได้กระทำต่อเนื่องไปจนถึงการกระทำที่ 2 โดยมิได้หยุด
Past Perfect tense ใช้ had เป็นกริยาช่วยและการใช้ก็ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
ซึ่งเป็นช่วงเวลใดเวลาหนึ่ง และเหตุการณ์ที่พูดถึงนั้นจบแล้ว มีโครงสร้างในการแต่งประโยคคือ
S.+ had+ V.3 หลักการใช้ ใช้กับ 2 เหตุการณ์โดยเกิดขึ้นก่อนและจบลงไปเรียบร้อยในอดีตใช้
past perfect ส่วนอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังใช้ past
simple และจะใช้ตัวเชื่อม when,before,after
Past Perfect Continuous tense จะเน้นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในอดีต
โครงสร้าง s + had + been +v.ing หลักการใช้ 1. ใช้เมื่อเน้นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ที่เกิดก่อนในอีตว่าได้กิดต่อเนื่องกันมามิได้หยุด
ก่อนที่จะมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเป็นอดีตเช่นกันได้เกิดขึ้นภายหลัง
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังใช้ past simple 2.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆหลายครั้ง
Future Simple tense แสดงถึงอดีตกาลมีโครงสร้าง
คือ S.+will/shall+V.1 will เป็นกริยาช่วยเสมอ
กริยาแท้ที่ตามหลัง will จะป็นช่อง 1
เสมอ หลักการใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยส่วนใหญ่จะมี adverb
อยู่ในประโยค เช่น tomorrow,next week,tonight
Future
Perfect tense รูปแบบโครงสร้างในการสร้างประโยคคือ S.+will+have+V.3 เป็นการบ่งบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น หรือสำเร็จในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
เช่น I will have studied Chapter Four before I study Chapter Five. แปลความหมายประโยคดังกล่าวได้ว่า ฉันจะเรียนบทที่ 4 เสร็จเรียบร้อย
ก่อนที่ฉันจะเรียนบทที่ 5 ซึ่งเป็นการบ่งบอกเหตุการณ์ 2
อย่างที่จะเกิดขึ้นหรือสำเร็จดังตัวอย่างข้างต้น โดยจะมีคำว่า by
นำหน้ากลุ่มคำที่บอกเวลาด้วย เช่น by tomorrow, by next week
สำหรับ Future Perfect Continuous tense
ก็เช่นเดียวกัน จะมีการใช้ที่เหมือนกัน แต่เพียงว่าเน้นถึงการกระทำที่ 1 ได้ทำต่อเนื่องมาจนถึงการกระทำที่ 2 และจะกระทำต่อไปในอนาคตอีกด้วย
Future Perfect tense ใช้ในการคาดว่าจะจบในอนาคต
รูปแบบโครงสร้างในการสร้างประโยคคือ S.+will+have+V.3 เช่น Next
year they wil have been here for ten years. หลักการใช้ 1. ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในอนาคตตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้
โดยมากจะมี by+เวลา เป็นที่ให้สังเกต 2. ใช้กับสองเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนใช้ future perfect เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังใช้
present simple
Future Continuous tense ใช้บ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แน่นอนในอนาคต
โครงสร้างมีดังนี้คือ S + will + be + v.ing หลักการใช้ 1.
ใช้เพื่อบอกว่าการกระทำอย่างหนึ่งจะเกิดขึ้นและดำเนินต่อเนื่องไปเฉพาะช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคตซึ่งมักจะมีเวลาระบุไว้
2.ใช้กับเหตุการณ์ที่ผู้พูดมั่นใจว่าจะเกิดขึ้นเพราะมีการนัดหมายไว้แล้ว
Future Perfect Continuous tense เป็นการเน้นความต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โครงสร้างคือ s + will + have +been + v.ing หลักการใช้
ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่จะเกิดและดำเนินต่อเนื่องกันไปในอนาคต
Present Continuous tense หรือ Progressive ใช้กับเหตุการณืที่กำลังเกิดขึ้นหรือกำลังกระทำอยู่โครงสร้างคือ S.+is,am,are+V.ing
เช่น He is talking to teacher on the phone. หลักการใช้คือ
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด
โดยมากจะมีคำกริยาวิเศษณ์บอกเวลา เช่น Now,at this moment,right now เป็นต้น 2. ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นชั่วคราว
3.ใช้ในการวางแผนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและต้องระบุเวลาชัดเจน 4.
ใช้กับเหตุการณ์ที่กระทำเป็นปัจจุบัน
Present Perfect tense สร้างขึ้นโดยมีกริยาช่วย
have,has อยู่ในประโยค โครงสร้างคือ S+ has/have+ V.3 have ใช้กับประธานพหูพจน์ has ใช้กับประธานเอกพจน์ หลักการใช้ 1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
และดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน ใช้ since,for 2.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังแสดงผลให้เห็นในปัจจุบันมักจะใช้
ever,never,just,already,yet 3.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ไม่ได้ระบุเวลาที่เฉพาะเจาะจง
Present Perfect continuous tense เป็นการเน้นการกระทำต่อเนื่องจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน
โครงสร้างคือ S+ Have,has +been+v.ing หลักการใช้มีดังนี้ S+
has/have+been+v.ing หลักการใช้มีดังนี้ 1.ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นในบางช่วงเวลาในอดีตและดำเนินไปถึงขณะที่พูด 2. ใช้เพื่ออเน้นระยะเวลาของเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป 3.ใช้ howlong,for,since เพื่อบอกว่าเหตุการณ์นั้นๆดำเนินต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันหรือเพิ่งจะจบลง
Past Simple tense ใช้กับเหตุการณ์ที่จบลงแล้ว
โครงสร้างคือ S.+ V.2 เช่น She told me her story. หลักการใช้ 1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และจบลงไปแล้ว ส่วนมากจะใช้ yesterday
formerly,ago,last… 2.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นนิสัย
เป็นประจำในอดีต
Past Continuous tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและดำเนินอยู่ในอดีต
หรือเกิดขึ้นและดำเนินอยู่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต โครงสร้างในการแต่งประโยค คือ
S.+ was/were +V.ing
หลักการใช้ 1.ใช้กับการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
2. ใช้กับ 2 เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
โดยเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นใช้ past con. เหตุการณ์ที่เข้ามาแรกใช้
past simple และใช้ when,while เชื่อม 3.
ใช้กับ 2 เหตุการณ์ที่ดำเนินอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันในอดีตโดยมีคำเชื่อม
while,as
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น