วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log 12 นอกห้องเรียน

Learning log 12
นอกห้องเรียน
ปัจจุบันนี้ภาษาอังกฤษมีบทบาทสำคัญยิ่งและเป็นตัวสำคัญที่จะช่วยให้บุคคลได้พัฒนาทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ดังนั้นการศึกษานอกห้องเรียนจึงเป็นทักษะสำคันในการเรียนรุและพัฒนาตนเอง ซึงทักษะเหล่านั้นได้แก่ ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ในการศึกษานอกห้องเรียนครั้งนี้ ดิฉันจึงได้ฝึกทักษะ การฟังพูดโดยการร้องเพลง ดูหนัง และฝึกการอ่านโดยการอ่านข่าว ดิฉันคิดว่าการฝึกฝนทักษะดังกล่าว เป็นการพัฒนาสมรรถนะทางด้านภาษาเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้นการเตรียมความพร้อม เพื่อให้มีทักษะภาษาอังกฤษในระดับที่สามารถติดต่อสื่อสาร แสวงหาความรู้ สร้างความร่วมมือ เจรจาต่อรอง และสร้างความสัมพันธ์อันดีได้ จึงมีความสำคัญ เป็นอย่างยิ่ง

การฝึกฝนทักษะการฟังในวันที่ 21 ตุลาคม 2558 ดิฉันได้ฟังเพลง if I were a boy ของ beyonce  ซึ่งเนื้อหาเพลงเกี่ยวกับ ถ้าหากวันหนึ่งผู้หญิงได้กลายเป็นผู้ชายเค้าจะรักและซื่อสัตกับผู้หญิงคนที่เขารักจะไม่ทำให้ผู้หญิงทีเขารักเสียใจ แต่สุดท้ายมันก็สายเกินไปแล้วเขาได้ทิ้งเธอและจากเธอไปแล้ว ปล่อยให้เธอเจ็บช้ำ โดยครั้งแรกที่ฟังดิฉันไม่ได้ดูเนื้อร้อง  ทำให้บางประโยคดิฉันร้องตามไม่ทัน เช่น I'd kick it with who I wanted , So they think I was sleeping alone, How it feels to love a girl, I swear I'd be a better man และในครั้งที่สองดิฉันได้ฝึกร้องโดยดูเนื้อเพลงใน youtube ซึ่งเนื้อเพลงดังกล่าวยังมีการใช้ linking sound เช่น  Threw on, chase after, kick itkick it, for it, Tell everyone, rules as
อีกทั้งยังมี การใช้ outta = out of แปลว่า ออกจาก ตัวอย่างประโยค I'd roll out of bed in morning และในเนื้อหาเพลงยังมีโครงสร้าง If + Past Simple, would + V.1 เช่น If I were a boy even just for a day, I'd roll out of bed in morning และยังมี Gerund คือ คำที่นำมาทำให้เปนคำนามโดยการเติม –ing เข้าไปยังกริยานั้นๆ โดยเราสามารถนำมาวางไว้ได้ทัง หน้า กลาง และหลังประโยคซึ่งเปนไดทังประธานและกรรมในประโญค เช่น I was sleeping alone, Waiting for me to come home
เมื่อฝึกครั้งที่สามดิฉันได้ดูเนื้อร้องและร้องเพลงตามหลายๆรอบ และในทีสุดดิฉันก็สามารถร้องเพลงนี้ได้โดยไม่ดูเนื้อเพลงแต่ก้ยังมีบางคำทีเสียงผิดเพี้ยนไปและยังร้องได้ไม่ทันตามเสียงดนตรี
ในวันที่ 23 ตุลาคม 2558 ดิฉันได้ฝึกร้องอีกเพลงหนึ่งนั้นก้คือ Demons ของนักร้องวง Imagine Dragons เพลงนี้เป็นเพลงที่มีดนตรีฟังสบายๆ และในเนื้อเพลงมีคำศัพท์ง่ายซึ่งสามารถทำให้เราได้เรียนรู้คำศัพท์ไปในตัวด้วย  ซึ่งเพลงนี้เนื้อเพลงประมาณว่าผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังล้มเหลว เขาไม่อยากให้คนรักเขาต้องมารับรู้สิ่งที่เขาพลาดไป
ในการฝึกร้องเพลงในครั้งนี้ดิฉันก็ได้ฝึกเช่นเดียวกับครั้งแรกก็คือเปิดเพลงโดยไม่ได้ดูเนื้อร้องแต่ในครั้งนี้ต่างจากครั้งแรกเพราะ เพลงนี้เป็นเพลงทีช้าและมีคำศัพท์ที่ง่ายทำให้ครั้งนี้ดิฉันสามารถร้องตามไปได้  30% และเมื่อฝึกครั้งที่สองโดยได้เปิดเนื้อเพลงดูในยูทูป ซึ่งเนื้อเพลงดังกล่าวยังมีการใช้Gerund หรือกริยานาม  คือ verb ที่นำมาทำไห้เป็นคำนามโดยการเติม –ing  เข้าไปยังกริยานั้นๆนั้นๆ โดยเราสามารถนำมาวางไว้ได้ทัง หน้า กลาง และหลังประโยคซึ่งเป็นไดทังประธานและกรรมในประโยค เช่น day are,cards all,dreams all,worst of  และเนื้อเพลงยังมีการใช้ wanna= want to แปลว่าต้องการ ตามด้วย verb ตัวอย่างประโยค Don't wanna let you down และ Don't wanna hide the truth ซึ่งเมื่อดูเนื้อเพลงแล้วก้ร้องตามปละบางประโยคที่ยากก็หยุดฟังแล้วก็ลองย้อนกับไปก้อนหน้า ฟังยุสองสามรอบจนร้องประโยคนั้นแล้วก้ร้องท่อนต่อไป และเมื่อมั่นใจว่าร้องดีขึ้นแล้วดิฉันจึงเปิดเพลงฟังแลวร้องตามเพลงนั้นได้ประมาน 90 เปอเซน เพราะยังร้องได้ไม่เมินสำเนียงทีถูกต้องและบางท่อนร้องเร็วไป
            การฝึกทักษะการอ่านในวันที่ 24 ตุลาคม 2558 โดยอ่านข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ดิฉันเลือกข่าวเรื่อง Haze health treat lingers in 3 province เป็นเรื่องเกี่ยวกับหมอกควันลอยมาจากอินโดนีเซียยังคงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ซึ่งจากการที่ได้อ่านและติดตามข่าวสารมีความว่า กรมอุตุนิยมวิทยารายงานคุณภาพอากาศที่ไม่ดีเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพและในวันต่อมาหมอกและควัน
ได้บางตาลงบ้างแล้ว ซึ่ปัญหาเกิดจากการเผาป่าเพื่อทำลายปาล์มน้ำมั้นในประเทศอินโดนีเซียซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในวงกว้าง ในขณะที่ประเทศอินโดนีเซียเองก็เตรียมอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ได้รับหมอกควันมากเกินไปจนทำให้เป็นโรคทางเดินหายใจ
            อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยก็มีจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูลที่ได้รับหมอกควันนี้ในอัตราที่มากพอสมควร และประกาศให้ประชาชนทั่วไปเฝ้าระวังและป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยด้วย
            การอ่านข่าวภาษาอังกฤษจากหนังสือพิมพ์หรือเว็ปไซด์ ไม่ได้เป็นเพียงให้เราได้รับข่าวสารบ้านเมืองเท่านั้นยังช่วยให้ดิฉันได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ และฝึกให้ดิฉันเป็นคนรักการอ่านไปในตัวอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยให้ดิฉันได้พัฒนา และเกิดการเรียนรู้ในเรื่องของการอ่านออกเสียงอักษรโฟเนติคที่ถูกต้องอีกด้วย
            ดังนั้นการศึกษานอกห้องเรียนในครั้งนี้ ทำให้ดิฉันเกิดการเรียนรู้และพัฒนาในทักษะ 4 ด้าน คือ ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ในการพัฒนาทักษะครั้งนี้ดิฉันได้ฝึกการฟังและการพูดโดยดารร้องเพลง การฝึกฝนดังกล่าวทำให้ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกเสียงและการพูดสำเนียงที่ถูกต้อง อีกทั้งยังได้ฝึกทักษะการอ่านโดยอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ซึ่งทำให้ดิฉันได้ฝึกนิสัยรักการอ่านและได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น