วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log 15 การอบรมเช้า 30/10/58

Learning log
นอกห้องเรียน
            การศึกษานอกห้องเรียนครั้งนี้  ได้มาจากการดิฉันได้เข้าร่วมอบรบเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ในวันที่สองในช่วงภาคเช้า คือวันศุกร์ ที่ 30 ตุลาคม 2558 โดย  ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ในหัวข้อ วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 ซึ่งประกอบไปด้วยการเรียนการสอนการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ภาษาอังกฤษตั้งแต่อดีต และสุดท้ายกลวิธีการเรียนการสอนภาษาในปัจจุบัน ซึ่งแนวการสอนดังกล่าวล้วนมีความสำคัญมากเพราะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกห้องเรียนในอนาคตได้

หลังจากนั้นก็ได้มีการบรรยายในหัวข้อถัดไป นั่นก็คือ ประเด็นแรกแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา ประเด็นที่สองคือแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฎิสัมพันธ์ ประเด็นที่สามแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษาประเด็นที่สามแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา
            ประเด็นแรกแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา ซึ่งประกอบด้วย 3 วิธีการสอน คือ  1.วิธีการสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method) เป็นการสอนที่ไม่เน้นการฟังและการพูด แต่เน้นการเรียนไวยากรณ์และการแปลเพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านได้และเพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านบทอ่านได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของคำภาษาอังกฤษและเน้นการท่องจำและความถูกต้องในการใช้ภาษา  2.วิธีสอนแบบตรง(The Direct Method) เป็นวิธีสอนที่ให้ผู้เรียนได้สื่อสารด้วยภาษาที่เรียน จึงควรใช้ภาษาต่างประเทศที่เรียนนั้นตลอดเวลา และสื่อสารเรื่องราวกับในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้ 3. วิธีการสอนแบบฟัง-พูด (The Audio-Lingual Method) เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาด้วยภาษาพูดซึ่งผู้เรียนต้องเลียนแบบเสียงสามารถฟังเข้าใจ เน้นการท่องจำบทสนทนาแล้วจึงเริ่มการฝึกอ่านและเขียน
ประเด็นที่สองคือแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฎิสัมพันธ์ โดยใช้วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Way) เป็นวิธีการสอนที่เน้นความรู้ ความเข้าใจเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนคิดเองผู้สอนจะพูดน้อยที่สุดและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พูด ซึ่งผู้สอนเป็นเพียงผุ้ช่วยเหลือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดความเข้าใจ อาจมีคำถามให้ผู้เรียนตอบและพูดได้มากที่สุด ให้ผู้เรียนได้คิดเองแก้ปัญหาเอง วิธีสอนตามแนวธรรมชาติ (The Natural Approach) เป็นแนวการสอนที่เลียนแบบการรับรู้ภาษาที่หนึ่งของเด็กเล็ก ซึ่งเป็นการรับรู้แบบเกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยไม่มีผู้สอน มักจะยกตัวอย่างที่ใช้จริง วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia) เป็นวิธีการสอนที่โน้มน้าวให้ผุ้เรียนได้ใช้พลังสมองของตนอย่างเต็มที่ โดยขจัดความกลัว ความวิตกกังวลควรให้ผุ้เรียนได้เรียนด้วยความสนุกสนานผ่อนคลายจิตใจ กล่าวคือสอนอย่างไรก็ได้ให้ผู้เรียนได้กล้าพุดมากที่สุด
            วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง เป็นวิธีการสอนได้แนวคิดจากงานวิจัยด้านจิตวิทยาพัฒนาการและทฤษฎีการเรียนรู้ โดยเชื่อมโยงกับทฤษฎีของการจำในช่วงจิตวิทยา มีความเชื่อว่าถ้าบุคคลใดได้รับการฝึกฝนบ่อยๆอย่างต่อเนื่อง มุ่งพัฒนาความเข้าใจในการฟังโดยการแสดงท่าทางให้ใช้ปฎิบัติตามคำสั่งเป็นหลักในการสอน การเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning) เป็นการเรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆส่งเสริมให้ผู้เรียนทำงานร่วมกันเพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะเป็นประชาธิปไตย
การเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน (Task-Based Learning) เป็นการเรียนการสอนที่ใช้ภาระงานเป็นหลัก โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเรียนการสอน ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาในการปฎิบัติภาระงานนั้นให้สำเร็จ ต้องวิเคราะห์จัดประเภทจัดลำดับ และพิจารณาความยากง่ายเพื่อให้เหมาะกับผู้เรียน และให้ผู้เรียนได้ค้นหาและช่วยเหลือด้วยตนเองให้ได้ประโยชน์มากที่สุด การเรียนรู้จากการทำโครงงาน (Project-Based Learning) เป็นการศึกษาแล้วดำเนินการศึกษาค้นคว้าภายในเวลาที่ตกลงกันไว้จนได้ผลตามจุดประสงค์ที่กำหนด เป็นการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการทำโครงงานต้องเริ่มต้นจากผู้เรียนเป็นผู้คิด ลงมือปฎิบัติ หาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีผู้สอนคอยแนะนำช่วยเหลือ กระตุ้น

            ประเด็นที่สามแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา โดยแบ่งออกเป็น 2 แนวการสอน คือ 1.แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์เน้นที่ตัวผู้เรียน โดยผู้เรียนและผุ้สอนเลือกสถานการณ์มาจัดตามวัตถุประสงค์ของผุ้เรียน 2.แนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร The Communicative Approach หรือ Communicative Language Teaching เป็นการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของผู้เรียน จัดขั้นตอนตามกระบวนการคิด โดยเริ่มจากการฟังไปสู่การพูดการอ่านการจับใจความสำคัญ ทำความเข้าใจ และจดจำ แล้วนำสิ่งทีเรียนรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริง เพื่อนำไปสู่การสอนคำศัพท์ ไวยกรณ์ และการออกเสียง
และประเด็นสุดท้ายคือแนวการสอนภาอังกฤษแบบบูรณาการเนื้อหาและภาษา โดยแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ 1. เป็นการสอนที่นำเน้นสาระการเรียนรู้ กล่าวคือผู้เรียนใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และในขณะเดียวกันก็พัฒนาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารไปด้วย ดังนั้นการคัดเลือกเนื้อหาที่นำมาให้ผู้เรียนได้เรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเพราะเนื้อหาที่เลือกสรรมาจะต้องเอื้อต่อการบูรณาการการสอนภาษาทั้งสี่ทักษะคือการฟัง พูด อ่าน และเขียน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาการเขียนเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆได้ 2.การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ใช้วิธีการตั้งคำถาม และกระบวนการแก้ปัญหา เป็นตัวนำกระบวนการแสวงหาความรู้และทักษะโดยไม่ยึดติดกับโครงสร้างของวิชาต่างๆและสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตจริง
สำหรับการอบรมในช่วงเช้าของวันศุกร์ ที่ 30 ตุลาคม 2558 ในช่วงภาคเช้า โดย  ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ในหัวข้อ วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 ในหัวข้อวิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21  ซึ่งความรู้ที่ได้รับมานั้น เป็นส่วนสำคัญในการที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการฝึกสอนในชั้นเรียน หรือจะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคตได้อย่างถูกต้อง และนอกจากจะได้ความรู้ในประเด็นต่างๆแล้ว ยังได้รับรู้ถึงปัญหาของครูผู้สอนและนักเรียนที่ได้จากการแบ่งปันประสบการณ์จากครูผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้อีกด้วย จากการเข้าร่วมอบรมครั้งนี้ทำให้ดิฉันได้รับความรู้และแนวทางดีๆมากมายในการใช้ประกอบการสอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น