Learning
log
นอกห้องเรียน
การศึกษานอกห้องเรียนครั้งนี้ ได้มาจากการดิฉันได้เข้าร่วมอบรบเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
ในวันที่สองในช่วงภาคเช้า คือวันศุกร์ ที่ 30 ตุลาคม
2558 โดย ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร
ในหัวข้อ วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 ซึ่งประกอบไปด้วยการเรียนการสอนการเรียนการสอนในศตวรรษที่
21 ภาษาอังกฤษตั้งแต่อดีต และสุดท้ายกลวิธีการเรียนการสอนภาษาในปัจจุบัน
ซึ่งแนวการสอนดังกล่าวล้วนมีความสำคัญมากเพราะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกห้องเรียนในอนาคตได้
หลังจากนั้นก็ได้มีการบรรยายในหัวข้อถัดไป
นั่นก็คือ ประเด็นแรกแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา ประเด็นที่สองคือแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฎิสัมพันธ์
ประเด็นที่สามแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษาประเด็นที่สามแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา
ประเด็นแรกแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา
ซึ่งประกอบด้วย 3 วิธีการสอน คือ 1.วิธีการสอนแบบไวยากรณ์และแปล
(The Grammar-Translation Method)
เป็นการสอนที่ไม่เน้นการฟังและการพูด
แต่เน้นการเรียนไวยากรณ์และการแปลเพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านได้และเพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านบทอ่านได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของคำภาษาอังกฤษและเน้นการท่องจำและความถูกต้องในการใช้ภาษา
2.วิธีสอนแบบตรง(The
Direct Method) เป็นวิธีสอนที่ให้ผู้เรียนได้สื่อสารด้วยภาษาที่เรียน
จึงควรใช้ภาษาต่างประเทศที่เรียนนั้นตลอดเวลา
และสื่อสารเรื่องราวกับในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้
3. วิธีการสอนแบบฟัง-พูด (The
Audio-Lingual Method)
เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาด้วยภาษาพูดซึ่งผู้เรียนต้องเลียนแบบเสียงสามารถฟังเข้าใจ
เน้นการท่องจำบทสนทนาแล้วจึงเริ่มการฝึกอ่านและเขียน
ประเด็นที่สองคือแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฎิสัมพันธ์
โดยใช้วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Way)
เป็นวิธีการสอนที่เน้นความรู้ ความเข้าใจเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ให้ผู้เรียนคิดเองผู้สอนจะพูดน้อยที่สุดและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พูด
ซึ่งผู้สอนเป็นเพียงผุ้ช่วยเหลือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดความเข้าใจ
อาจมีคำถามให้ผู้เรียนตอบและพูดได้มากที่สุด ให้ผู้เรียนได้คิดเองแก้ปัญหาเอง
วิธีสอนตามแนวธรรมชาติ (The Natural Approach)
เป็นแนวการสอนที่เลียนแบบการรับรู้ภาษาที่หนึ่งของเด็กเล็ก
ซึ่งเป็นการรับรู้แบบเกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยไม่มีผู้สอน มักจะยกตัวอย่างที่ใช้จริง
วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
เป็นวิธีการสอนที่โน้มน้าวให้ผุ้เรียนได้ใช้พลังสมองของตนอย่างเต็มที่
โดยขจัดความกลัว
ความวิตกกังวลควรให้ผุ้เรียนได้เรียนด้วยความสนุกสนานผ่อนคลายจิตใจ
กล่าวคือสอนอย่างไรก็ได้ให้ผู้เรียนได้กล้าพุดมากที่สุด
วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง
เป็นวิธีการสอนได้แนวคิดจากงานวิจัยด้านจิตวิทยาพัฒนาการและทฤษฎีการเรียนรู้
โดยเชื่อมโยงกับทฤษฎีของการจำในช่วงจิตวิทยา
มีความเชื่อว่าถ้าบุคคลใดได้รับการฝึกฝนบ่อยๆอย่างต่อเนื่อง
มุ่งพัฒนาความเข้าใจในการฟังโดยการแสดงท่าทางให้ใช้ปฎิบัติตามคำสั่งเป็นหลักในการสอน
การเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning)
เป็นการเรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆส่งเสริมให้ผู้เรียนทำงานร่วมกันเพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะเป็นประชาธิปไตย
การเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน (Task-Based
Learning) เป็นการเรียนการสอนที่ใช้ภาระงานเป็นหลัก
โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเรียนการสอน
ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาในการปฎิบัติภาระงานนั้นให้สำเร็จ
ต้องวิเคราะห์จัดประเภทจัดลำดับ และพิจารณาความยากง่ายเพื่อให้เหมาะกับผู้เรียน
และให้ผู้เรียนได้ค้นหาและช่วยเหลือด้วยตนเองให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
การเรียนรู้จากการทำโครงงาน (Project-Based Learning)
เป็นการศึกษาแล้วดำเนินการศึกษาค้นคว้าภายในเวลาที่ตกลงกันไว้จนได้ผลตามจุดประสงค์ที่กำหนด
เป็นการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการทำโครงงานต้องเริ่มต้นจากผู้เรียนเป็นผู้คิด
ลงมือปฎิบัติ หาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีผู้สอนคอยแนะนำช่วยเหลือ กระตุ้น
ประเด็นที่สามแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา
โดยแบ่งออกเป็น 2 แนวการสอน คือ 1.แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์เน้นที่ตัวผู้เรียน
โดยผู้เรียนและผุ้สอนเลือกสถานการณ์มาจัดตามวัตถุประสงค์ของผุ้เรียน 2.แนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร The Communicative Approach หรือ Communicative Language Teaching เป็นการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของผู้เรียน
จัดขั้นตอนตามกระบวนการคิด โดยเริ่มจากการฟังไปสู่การพูดการอ่านการจับใจความสำคัญ
ทำความเข้าใจ และจดจำ แล้วนำสิ่งทีเรียนรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริง
เพื่อนำไปสู่การสอนคำศัพท์ ไวยกรณ์ และการออกเสียง
และประเด็นสุดท้ายคือแนวการสอนภาอังกฤษแบบบูรณาการเนื้อหาและภาษา
โดยแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ 1. เป็นการสอนที่นำเน้นสาระการเรียนรู้
กล่าวคือผู้เรียนใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และในขณะเดียวกันก็พัฒนาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารไปด้วย
ดังนั้นการคัดเลือกเนื้อหาที่นำมาให้ผู้เรียนได้เรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเพราะเนื้อหาที่เลือกสรรมาจะต้องเอื้อต่อการบูรณาการการสอนภาษาทั้งสี่ทักษะคือการฟัง
พูด อ่าน และเขียน
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาการเขียนเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆได้
2.การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ใช้วิธีการตั้งคำถาม และกระบวนการแก้ปัญหา
เป็นตัวนำกระบวนการแสวงหาความรู้และทักษะโดยไม่ยึดติดกับโครงสร้างของวิชาต่างๆและสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตจริง
สำหรับการอบรมในช่วงเช้าของวันศุกร์ ที่ 30
ตุลาคม 2558 ในช่วงภาคเช้า โดย ผศ.ดร.
ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ในหัวข้อ วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 ในหัวข้อวิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่
21
ซึ่งความรู้ที่ได้รับมานั้น
เป็นส่วนสำคัญในการที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการฝึกสอนในชั้นเรียน
หรือจะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคตได้อย่างถูกต้อง
และนอกจากจะได้ความรู้ในประเด็นต่างๆแล้ว
ยังได้รับรู้ถึงปัญหาของครูผู้สอนและนักเรียนที่ได้จากการแบ่งปันประสบการณ์จากครูผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้อีกด้วย
จากการเข้าร่วมอบรมครั้งนี้ทำให้ดิฉันได้รับความรู้และแนวทางดีๆมากมายในการใช้ประกอบการสอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น